วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2557

ทดลองใช้ บริการ Google Apps For Work‎

    
    ทดลองใช้ บริการ Google Apps For Workหรือ Google App for Business 
ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง http://www.google.com/intx/th/enterprise/apps/business/

สำหรับบทความนี้จะเป็นรีวิวเล็กๆเพียงบางส่วนเท่านั้น ของบริการข้างต้นของกูเกิล ซึ่งเป็นบริการที่ได้รวบรวมเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับธุรกิจ หลายๆตัวเข้ามาไว้ด้วยกัน  เช่น Gmail, ปฏิทิน, กูเกิลไดร์ฟสำหรับเก็บไฟล์, การประชุมผ่านวีดีโอ และอื่นๆ

    ผู้เขียนได้ทดสอบทั้ง เวอร์ชั่นทดลองฟรี 30 วัน และแบบเสียเงินแล้ว (ค่าบริการ1อีเมล์ = 5USD ต่อเดือน) และพบปัญหาบางข้อที่ทำงานไม่สะดวกนิดหน่อย ก็ขอเขียนถึงไว้ตรงนี้ซักนิด เพื่อเป็นประโยชน์กับท่านที่สนใจ

    การทดลองเลือกใช้บริการนี้ ก็เนื่องมาจาก ผู้เขียนได้โจทย์มาจากลูกค้า ซึ่งเป็นเว็บไซต์ขายสินค้า อีคอมเมิร์ซ มีสมาชิกลูกค้าประมาณหมื่นกว่าคน ปัญหาคือ การส่งอีเมล์ข่าวสาร ผ่านเซิฟเวอร์ขององค์กร สื่อสารกับสมาชิกลูกค้าได้บ้างไม่ได้บ้าง เป็นๆหายๆ ทางเซิฟเวอร์ที่เช่าก็ให้คำตอบไม่ได้ ย้ายเจ้าก็แล้วไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เลยต้องการส่งข่าวสารถึงลูกค้าโดย เลือกใช้บริการ จากมืออาชีพ แยกออกไปจากตัวเว็บไซต์เลย เพื่อความชัวร์ว่าลูกค้าจะได้ข้อมูลข่าวสารทันเหตุการณ์ ก็เลยค้นหาเจอบริการที่ว่านี้

    หลักๆผู้เขียนจะทดลองใช้บริการ Google Gmail For Work - Professional Business Email  
สำหรับบริการตัวนี้คร่าวๆก็คือ ผู้ใช้สามารถเอาโดเมนของตัวเอง เช่น mydomain.com  มาผูกกับ กูเกิลจีเมล์ ได้ (จะมีมากกว่า 1 โดเมน ก็ได้ ) โดยต้องมีการแก้ไข MX Record ในเซิฟเวอร์ของโดเมน เพื่อให้การ รับ-ส่งอีเมล์ มาใช้งานระบบ SMTP ของกูเกิลแทน ซึ่งดูแล้วมันน่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่า ระบบอีเมล์ในเซิฟเวอร์ของผู้ใช้

   ถ้าจะอธิบายให้เห็นภาพคร่าวๆก็คือ หากนำโดเมนมาผูกกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เช่น mydomain.com ผู้ใช้จะสามารถสร้างผู้ใช้อีเมล์รายย่อยๆได้เอง เช่น  user1@mydomain.com , user2@mydomain.com เป็นต้น และในการเช็คหรือส่งอีเมล์ สามารถเข้าไปใช้งานได้ที่ gmail.com หรือใช้โปรแกรมอ่านเมล์อย่าง Mozilla Thunderbird 

การใช้บริการนี้ประโยชน์ที่เห็นชัดๆก็คือ
1. จะได้ระบบรับส่งเมล์และ ระบบกรองพวกเมล์ขยะ หรือไวรัส ที่มีประสิทธิภาพดีกว่า
2. สามารถแชร์อีเมล์รายชื่อลูกค้าให้ อีเมล์อื่นๆภายใต้โดเมนของเรา ใช้งานได้
3. สามารถ เพิ่ม ลบ แก้ไข รายชื่ออีเมล์ รหัสผ่าน และ ค่าโปรไฟล์ ทุกอีเมล์ภายในองค์กรได้เอง


ผลจากการทดลองใช้ พบว่ามี 3 ข้อที่อาจจะไม่สะดวกดังนี้

ผู้เขียนศึกษาก่อนแล้วว่า กูเกิล มีลิมิต ในการส่งอีเมล์ต่อวัน และ โจทย์ที่ได้มาคือ จะต้องส่งข่าวสารถึงอีเมล์สมาชิกประมาณ หมื่นกว่ารายชื่อ
ทีนี้มาดูลิมิตการส่งกันครับ https://support.google.com/a/answer/166852?hl=th
หากตีความตามลิ้งค์ ก็จะสามารถส่ง ถึงผู้รับภายนอก
(ผู้รับภายนอกก็คืออีเมล์ที่ไม่ใช่ @mydomain.com )  ไม่เกิน 2,000 คนต่อวัน


1.  ดังนั้นหากต้องการส่งอีเมล์ถึงสมาชิก 15,000 หมื่นห้าพันคน
ผ่านการเปิดเว็บจีเมล์ อาจจะไม่สะดวกนัก เพราะต้องเขียนทีละ 1 ฉบับ โดยเลือกส่งถึงผู้รับฉบับละ 500 คน (ทำได้โดยสร้างเป็น Group ละ 500 คน ในรายชื่อ Contact) ส่งได้วันละ 4 ครั้ง จะใช้เวลาทั้งหมด 8 วันถึงจะส่งครบ (ข้อนี้ไม่ซีเรียสเท่าไหร่ เพราะจีเมล์ก็บอกอยู่แล้วว่ามีบริการตัวที่เหมาะกว่านี้ อยู่ในคำแนะนำในลิ้งค์ ลิมิต ด้านบน)

2. จากข้อ 1. หากไม่ส่งผ่านเว็บจีเมล์ แต่ส่งผ่านโปรแกรมเมล์ อย่าง outlook, Thunderbird จะระบุอีเมล์ในช่องส่งถึงได้เพียง 99 รายชื่อ

3. การคลิกเลือกรายชื่อผู้รับ 500 คนลงในช่อง ส่งถึง ผ่าน บราวเซอร์ มีอาการอืดๆ แต่ทำได้ปกติ

4. การนำเข้า Import รายชื่ออีเมล์ลูกค้า มาใส่ใน รายชื่อผู้ติดต่อ ของจีเมล์ ไม่มีระบบกรองและตรวจสอบว่าอีเมล์เหล่านั้น ถูกต้องหรือไม่ เพราะหากว่าชื่ออีเมล์ พิมพ์ผิด การส่งทีละหลายๆคน จะเกิดปัญหาทันที คือ โปรแกรมจะแจ้งเตือนว่าส่งไม่ได้ ต้องมาไล่ลบ อีเมล์ที่สะกดไม่ถูก  ทีละอัน
(เช่น  sample@hotmail.om จะเห็นว่า .com เขียนผิด)
หากเรา ส่งถึง 500 คน แต่มีเมล์ผิด 10 อีเมล์ ก็ต้องมานั่งไล่ลบทั้ง 10 ครั้งก่อนถึงจะส่งได้

ข้อนี้ผู้เขียน แก้ไขโดยวิธี นำรายชื่ออีเมล์ ใส่ในโปรแกรม ThunderBird ก่อน แล้วหา Add-on ชื่อ ThunderPlunger มากรองชื่ออีเมล์ที่ผิดออก แล้วจึงค่อยไปใส่ในจีเมล์  

สำหรับปัญหาทั้ง 4 ข้อข้างต้นไว้ผู้เขียนสรุปปัญหาได้แล้วก็จะมาเขียนต่อให้จบอีกทีครับ.



วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2557

รวบรวมปัญหาในการสร้างร้านค้า บนหน้าแฟนเพจ Facebook

     
       ในบทความนี้ผู้เขียน จะแชร์ปัญหาต่างๆเกี่ยวกับการสร้าง ร้านค้าบนแฟนเพจเฟซบุ๊ค ที่พบจากประสบการณ์จริง จากบทความก่อนหน้านี้ ซึ่งปัญหาที่พบจะมีดังนี้ครับ

1.ปัญหารูปใน อัลบั้ม ที่เราสร้างขึ้นมา ไม่เรียงลำดับตามวันที่ล่าสุด
สำหรับท่านที่มีบัญชีเฟซบุ๊คอยู่แล้วนั้น ให้คุณล็อคอิน ผ่านคอมพิวเตอร์ จากนั้นสลับไปยัง หน้าแฟนเพจ แล้วกดลิ้งค์เข้าหน้านี้ https://www.facebook.com/media/albums/ คุณจะเห็นอัลบั้มที่มีอยู่ทั้งหมด

หากเป็นอัลบั้มที่เฟซบุ๊คมีมาให้อยู่แล้ว เช่น อัลบั้ม รูปภาพบนไทม์ไลน์ เมื่อกดเข้าไปดู คุณจะเห็นว่ารูปภาพ นั้นเรียงจากวันที่ใหม่ด้านบนลงไปหารูปเก่าๆด้านล่าง

แต่ถ้าหากเป็นอัลบั้มที่คุณสร้างขึ้นมาเอง มันจะไม่เรียงแบบนั้น แต่มันจะเรียงรูปภาพจากเก่าด้านบนไปหารูปใหม่ด้านล่าง ซึ่งตรงนี้แหละครับที่มันเป็นปัญหา

วิธีแก้ปัญหา เฟซบุ๊คให้เราแก้โดยวิธีแบบแมนนวล คือเมื่อเรากดเข้าไปอยู่ในหน้าอัลบั้มนั้นๆแล้ว ให้เรา คลิกเม้าส์ที่รูปค้างไว้แล้วลากไปปล่อยในตำแหน่งที่ต้องการ Drag & Drop ซึ่งวิธีนี้จะไม่เวิร์คหากในอัลบั้มนั้นมีรูปจำนวนมาก เพราะจะลำบากในการจัดเรียง และ ไม่อัตโนมัติ หากวันใดคุณอัพโหลดรูปใส่เข้าไปอีก ก็ต้องคอยมาเลื่อนทุกครั้งซึ่งมันไม่ใช่ ส่วนวิธีอื่นทีดีกว่านี้ยังไม่มีครับ


2. ปัญหาการลิ้งค์ไปยังหน้าต่างๆภายในเพจเดียวกัน
ปัญหานี้คือ ในบางครั้งเพื่อความสะดวกต่อคนดู เจ้าของเพจอยากจะใส่ลิ้งค์ภายในเพจ ไว้ในโพสต์หรือความเห็น ให้ผู้ชมกดเข้าไปได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาหา
แต่บางลิ้งค์จะมีปัญหากดไปแล้วไม่เจอหน้า เป็นเฉพาะผู้ชมที่ใช้ แอพ facebook บน Android และ Apple IOS
สำหรับผู้ชมที่ดูผ่าน บราวเซอร์ในคอมพิวเตอร์ หรือ บราวเซอร์ในโทรศัพท์ จะไม่เจอปัญหานี้

ลิ้งค์ที่มีปัญหาเท่าที่พบตอนนี้
2.1. ลิ้งค์ไปยัง หน้ารวมอัลบั้ม (กดที่เมนู รูปภาพ ด้านบนสุดของเพจจะได้ URL ตามตัวอย่าง) https://www.facebook.com/ชื่อเพจ/photos_stream

2.2. ลิ้งค์ไปยังหน้ารวมรูปภาพ
https://www.facebook.com/ชื่อเพจ/photos

วิธีแก้ไข สำหรับเจ้าของเพจ และนักพัฒนา ให้คุณลองทดสอบทุกลิ้งค์ที่คุณโพส โดยใช้ทั้งบราวเซอร์จากคอมพิวเตอร์ ,บราวเซอร์จากอุปกรณ์พกพา และ แอพ facebook บนอุปกรณ์พกพา



3. ปัญหา แอพเสริม ของเฟซบุ๊ค
แอพเสริมที่ว่า ก็คือแอพที่ทำขึ้นมาเพื่อตกแต่ง หรือเสริมลูกเล่นฟีเจอร์ต่างๆ เข้าไปในหน้าเพจของเรา
ยกตัวอย่างเช่น แอพเสริม PageTab ที่จะเพิ่มแท็บสำคัญๆบนหน้าเพจ ซึ่งเจอปัญหาเดิมครับ แอพ facebook บนอุปกรณ์พกพาไม่เห็นแอพเสริมเหล่านี้

วิธีแก้ไข ยังไม่มี


หมายเหตุท้ายบท :
1. แอพ facebook บนอุปกรณ์พกพาระบบปฏิบัติการ Android และ Apple IOS ให้อัพเดทเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดก่อนนะครับ เพราะอาจจะแก้ปัญหาเหล่านี้ไว้แล้ว

2. ขณะนี้ยังพบแค่ 3 ปัญหานี้ครับ และหากว่าปัญหาข้อใดได้รับการแก้ไขจากเฟซบุ๊ค หรือ มีวิธีทางออกอื่นๆแล้วนั้น จะมาอัพเดทให้ทราบกันต่อไปครับ.

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

สร้างแฟนเพจ facebook เปิดร้านค้าออนไลน์ บน โซเชียลเน็ตเวิร์ค


    สมัยนี้ หากจะเปิดร้านค้า ขายของ ออนไลน์ ไม่ใช่เลือกยากอีกต่อไป เนื่องจากมีร้านค้าออนไลน์สำเร็จรูป ให้คุณเลือกอยู่มากมายหลายเจ้า ทั้งแบบฟรี และเสียเงิน โดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานทางด้านการสร้างเว็บ

    แต่ ณ วันนี้ จะเปิดร้านที่ไหนก็ไม่ฮอต เท่าเปิดที่ facebook เพราะ ฟรี ไม่เสียเงิน ซึ่งส่วนใหญ่เราๆท่านๆสมัครเฟซ เพื่อคุยกับกลุ่มเพื่อนอยู่แล้ว แถมได้การตลาด จากระบบ โซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือ เครือข่ายสังคม เข้ามาเสริมกำลังอันเป็นจุดแข็ง ที่สำคัญ

    ในตอนที่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ก่อตั้งเฟซบุ๊คขึ้นมา ก็เพื่อให้เป็นเว็บไซต์หนังสือรุ่น ประมาณนั้น ให้เพื่อนค้นหาเพื่อนเก่าๆสมัยที่เรียนได้ ใครเป็นเพื่อนกับใคร ก็แอดรับผ่านเว็บเป็นเพื่อนกัน เมื่อมีกิจกรรมอะไรในกลุ่มเพื่อนๆ ก็จะมองเห็นสถานะ ต่อมาเมื่อมี ผู้ใช้จำนวนมากเข้า เกิดเป็นกระแสฮิตตามๆกัน กลายเป็นสังคม Social Network ขนาดใหญ่

และเมื่อเฟซบุ๊ค ทำให้ user สร้างหน้า แฟนเพจ Fanpage ได้ ก็เลยมี คนหัวใส เปิดเป็นร้านค้า บนหน้าแฟนเพจมันซะเลย ( คนไทยน่าจะติดอันดับต้นๆที่เปิดแฟนเพจเป็นร้านค้า เพราะผมเห็นเต็มไปซะหมด ) ซึ่งหน้าของ แฟนเพจ เฟซบุ๊ค มันไม่ได้มีฟีเจอร์ที่รองรับระบบการค้าขายเลย 
เช่น ไม่มีระบบหยิบของใส่ตะกร้า ไม่มีระบบชำระเงินออนไลน์ (ในปัจจุบัน มีผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นเหล่านี้ ขึ้นมารองรับแล้ว แต่ยังไม่นิยมในหมู่คนไทย )

แล้วเค้าเปิดกันได้อย่างไรล่ะ? ก็ง่ายๆเบสิคๆเลย ผมดูแล้วบางทียังงงๆ ว่าเอาแบบนี้เลยเรอะ ต่อไปจะอธิบายการเปิดร้านค้า บนแฟนเพจอย่างคร่าวๆนะครับ เพราะผู้เขียนไม่สามารถเขียนอธิบายละเอียดมากๆได้ ( น่าจะมีหนังสือขายแล้วมั้ง )

1. สมัครเฟซบุ๊ค ตามปกติก่อน หรือ ท่านที่สมัครไว้อยู่แล้ว ก็ล็อคอินเข้าสู่ระบบ (ควรล็อคอินผ่านคอมพิวเตอร์นะครับเพราะหน้าจอจะใหญ่ดีไม่งง) ก็เข้าเว็บนี้เลย
https://www.facebook.com/pages/create/
หน้าเว็บจะให้เลือกว่า คุณเลือกจะสร้างหน้าเพจแนวไหน ก็เลือกแล้วทำตามคำแนะนำต่อไป

2. ถัดมา ก็จะมีให้ท่านกรอกข้อมูลต่างๆ ซึ่งจะมี ภาษาไทยอธิบายบอก และเมื่อมาถึงให้กรอกชื่อ url ของเพจ http://www.facebook.com/.......
ตรงนี้สำคัญมากนะครับ เพราะมันจะเป็นที่อยู่ร้านค้าของคุณ ควรจะตั้งให้มันจำง่ายๆ หรือเกี่ยวพันกับธุรกิจ หรือ ชื่อสินค้า (เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ หรือ ผสมตัวเลขเท่านั้น ไม่มีอักขระแปลกๆ)

ตัวอย่างเช่น ผมเปิดร้านขายเสื้อผ้า แฟชั่น ชื่อ mosthip.com ซึ่งจะขายเสื้อผ้าแนว ฮิปๆ ก็ลองกรอกใส่ลงไป ถ้าว่าง ก็จะได้ชื่อ http://www.facebook.com/mosthip แต่พอดีไม่ว่าง ผมก็คิดอยู่หลายชื่อเหมือนกันแต่ไม่ว่างและจะยาวไปจำยากด้วย แต่ผมมีชื่อร้านอีกร้านคือ mosthit.com ก็ลองกรอกลงไป อันนี้ว่างก็เลยได้มาเป็น
http://www.facebook.com/mosthit
ซึ่งต่อไปขอให้คุณดู เพจ mosthit ของผมเป็นตัวอย่าง ในการสร้างร้านค้านะครับ

3. จากนั้นตอนในข้อ 2 ทำไปเรื่อยก็จะมีให้กรอกนู่นนี่ จนเสร็จกระบวนการ ท่านก็จะได้ร้านค้า และมีที่อยู่ url เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ เผยแพร่หน้า และ เอาสินค้ามาลง

4. เนื่องจากหน้าเพจก็จะคล้ายๆ ไทมไลน์ คือเมื่อโพสอะไรลงไป โพสใหม่ๆจะอยู่ข้างบนเสมอ โพสเก่าๆก็จะตกลงไป หากคุณจะเปิดร้านค้าที่มีสินค้าจำนวนมากหลายสิบชิ้นขึ้นไป จะไม่สะดวก ต่อลูกค้าในการดูสินค้าแน่ๆ แก้ปัญหาด้วยการ ไปสร้างอัลบั้มรูปของเพจ แล้วเอารูปสินค้าใส่เข้าไปในนั้น จากนั้นก็ตั้งชื่ออัลบั้มเสียใหม่ ให้ง่ายๆ ถ้า คุณดูจาก เพจของผม http://www.facebook.com/mosthit


ผมจะสร้างไว้ 2 อัลบั้มคือ แฟชั่นผู้หญิง และ แฟชั่นผู้ชาย เพราะหลักๆ ผมจะมีสินค้า 2 หมวดหลักนี้

5. เมื่อทยอยเอารูปสินค้าใส่ลงไปเสร็จ บางท่านที่ใช้โปรแกรมตกแต่งรูปเป็น ก็อาจจะพิมพ์รายละเอียดสินค้าลงไปในรูปภาพเลยก็ได้ แต่ถ้าไม่ ก็สามารถพิมพ์รายละเอียดลงไปในความเห็นใต้รูปได้เลย (ง่ายจัง)

6. เมื่อลงรูปสินค้าเสร็จหมดแล้ว ให้ท่านโพสต์ข้อความ พวกวิธีการสั่งซื้อ ชำระเงิน ลิ้งค์ไปยังอัลบั้มสินค้า แล้วกดปักหมุดไว้บนสุด (คลิกที่มุมขวาของโพส ที่เป็นรูป v ศรทิ่มลง)

7. เนื่องจากข้อจำกัดที่บอก เฟซบุ๊คไม่ได้ เตรียมฟีเจอร์ให้เราเปิดขายของ ดังนั้น เราต้องเขียนบอกลูกค้าว่า หากสนใจสั่งสินค้าตัวใด ให้โพสจอง ใต้รูปสินค้านั้น หรือ ส่งข้อความแจ้งผ่านหน้าเพจ เพียงเท่านี้ก็เปิดร้านได้แล้ว ที่เหลือก็คือโปรโมทให้คนมาไลค์เยอะๆ คนจะได้เห็นมากๆ ก็จะมีโอกาสขายของได้มากตามไปด้วย

    หากท่านที่อ่านบทความนี้แล้ว อยากเปิดร้านผ่านหน้าแฟนเพจ ของเฟซบุ๊คแต่ ไม่มีเวลา ,ทำตามแล้วไม่เข้าใจ , อยากให้สอน หรือ อยากให้ทางผมสร้างให้เลย ก็ยินดีครับ คิดค่าบริการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีบริการสร้างเว็บไซต์ ,ให้คำปรึกษาทางด้านเว็บไซต์ และ การตลาดออนไลน์อีกด้วยครับ หากท่านสนใจในบริการสามารถส่งอีเมล์เข้ามาสอบถามได้ที่ 
mosthip.com @ gmail.com

ขอขอบคุณ

วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ปรับตัวให้เข้ากับกลยุทธ์ วิธีการทำ SEO ในยุคปัจจุบัน

เป็นที่ทราบดีกันว่า หากเราต้องการเข้าใจเกี่ยวกับ การแสดงผลการค้นหา หรือ การจัดอันดับเว็บไซต์ บนเว็บไซต์ Google นั้น
เราต้องเข้าใจหลักการทำงานของ อัลกอริทึ่ม (Algorithm) ของโปรแกรมค้นหาของ กูเกิล เสียก่อน

อัลกอริทึ่ม คืออะไร?
อธิบายแบบเข้าใจง่ายๆคือ หลักกระบวนการแก้ปัญหา การทำงานเป็นลำดับขั้นตอน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาตามที่ต้องการ
มักนิยมใช้เรียกการทำงานของ โปรแกรมคอมพิวเตอร์

อัลกอริทึ่ม ของ กูเกิล นั้นได้ออกแบบขึ้นมาเพื่อแสดงผลลัพธ์จากคำค้นหา (คีย์เวิร์ด) ให้ได้เป็นคำตอบ เป็นเว็บไซต์ที่มีคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง
และมันได้มีถูกพัฒนา อย่างมีวิวัฒนาการมาตลอด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ และเข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบันให้ได้มากที่สุด

เราทราบกันว่า  กูเกิล ให้คะแนนการจัดอันดับแต่ละเว็บไซต์ตั้งแต่ 0-10 คะแนน ที่เรียกกันว่า Pagerank ซึ่งเจ้านี่ก็คือส่วนนึงของ อัลกอริทึ่ม
โดยหลักการให้คะแนน Pagerank เกิดจากแนวคิดผสมผสานการประเมินผลต่างๆ เช่น Backlink และ วิธีลับทางการค้าอื่นๆ เป็นต้น
และเป็นไปได้มากกว่าที่ เว็บไซต์ที่มีคะแนนสูงกว่า จะสามารถแสดงผลอยู่ในหน้าแรกๆของกูเกิล

ในอดีต อัลกอริทึ่ม อาจจะให้ความสำคัญกับเว็บที่ Backlink สูงๆ (หมายถึงเว็บที่มีลิ้งค์มาหาเยอะๆ) หรือ เว็บไซต์ที่มีคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องมากๆ และ อื่นๆ
แต่มันทำให้ นักพัฒนาเว็บไซต์ที่แสนฉลาดเข้าใจได้ไม่ยาก

จึงเกิดเว็บไซต์ประเภทที่มีแต่คำค้น เต็มหน้าไปหมด ,เว็บไซต์ที่มีจำนวนหน้ามากแต่ไม่ค่อยมีเนื้อหาอะไร เช่นเว็บแนวดิกชันนารี
เว็บไซต์ที่มีลิ้งค์มาหาเยอะ แต่ลิ้งค์เหล่านั้นไม่มีคุณภาพ หรือ มีลิ้งค์มาหาเยอะแต่ไม่เคยลิ้งค์กลับไปก็ดูผิดปกติ

ดังนั้น ถ้า กูเกิล ไม่กรองให้ได้ผลลัพธ์การค้นหาที่ดี เมื่อเราค้นก็จะเจอแต่เว็บไซต์ที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ตรงตามเนื้อหาที่ต้องการ เกิดการ ผูกขาดทางด้านคีย์เวิร์ด การแสปมเซิสเอนจิ้น และอื่นๆ
กูเกิล ก็จะเสียอันดับจากการเป็น ผู้นำการตลาด Search Engine ของโลกได้

ที่ผู้เขียนเกริ่นมายืดยาวในบทความ ก็คืออยากจะสื่อว่า จากกระแส Social Network ที่ร้อนแรงตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ทำให้ Google พลาดไม่ได้ที่จะต้องหันมามอง โซเชียลมีเดียและโซเชียลเน็ตเวิร์ค


Terry Kyle – SEO Guru ระดับโลกได้เคยบอกไว้ว่า “ต่อไปนี้ Google จะมองว่าถ้าเว็บไซต์ของคุณนั้นมีคุณภาพจริงๆ จะต้องถูกพูดถึงอยู่ใน Social Network”

บทสรุป
นอกจากการ แลกเปลี่ยน Backlink อย่างเดิมๆแล้วนั้น สิ่งที่ขาดไม่ได้ในยุคปัจจุบันก็คือการหา Backlink จาก Social Network ซึ่งมันจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีค่า Quality Score มากขึ้น
ที่เป็นปัจจัยสำคัญในอัลกอริทึ่ม ของกูเกิล ในยุคปัจจุบันนี้ และ ส่งผลกับ อันดับที่สูงขึ้นนั่นเอง.

แนะนำเว็บไซต์ SMEThailand โปรโมทเว็บไซต์ของคุณฟรี
เพิ่ม Backlink ง่ายๆภายใน 3 นาที
และในตอนนี้เพิ่ม บริการ 3BL ใหม่เข้ามาคุ้มค่ากับค่าบริการ 30 บาทครับ ขอแนะนำ.


วันพุธที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2557

ซีรีย์เกาหลี ยอดนิยม 50 อันดับทำเงิน


ละครเกาหลี หรือ ที่คนไทยฮิตเรียกติดปากกันว่า ( ซีรีย์เกาหลี , ซีรี่ส์เกาหลี , หนังเกาหลี ) ของประเทศ เกาหลีใต้ นั้น
จัดได้ว่าเป็นอุตสาหกรรมภาพยนต์และโทรทัศน์ อันดับต้นๆของเอเชีย ในยุคนี้
ละครซีรีย์ นั้นเป็นรายการโทรทัศน์ ประเภทละครซิทคอม ซึ่งจะแบ่งเป็นตอน และภาคต่อ หรือไม่มีก็ได้
การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ ละครซีรีย์ ในแง่ของเนื้อหาสาระ การสร้างความประทับใจ และสะเทือนใจ คนดู
บวกกับ เหล่านักแสดงที่ฝีไม้ลายมือ และหน้าตาและผิวพรรณดี ทำให้ประเทศต่างๆได้ซื้อ ลิขสิทธิ์ เพื่อไปเผยแพร่ภาพ รวมทั้งประเทศไทยเราด้วย

จนเกิดกระแสฮิตขึ้นมาเป็น ยุคเกาหลีฟีเวอร์ ซึ่งได้อิทธิพลมาจาก เสื้อผ้าหน้าผมของ เหล่าดารา นักแสดง นักร้อง ของเกาหลีใต้ทั้งสิ้น อาทิเช่น แฟชั่นการแต่งกาย ,การแต่งหน้าทำผม,
การศัลยกรรมใบหน้าให้ดูสวยและหล่อขึ้น ซึ่งในเรื่องศัลยกรรมนี้ หมอศัลยกรรมของเกาหลีใต้ จัดว่าฝีมือเข้าขั้นเทพในระดับท็อป5
ดังจะเห็นได้จากดาราคนไทย หรือ คนไทยรายอื่นๆ หลายๆรายลงทุนบินไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีเลยทีเดียว

ทีนี้เราลองมาดูว่า ซีรี่ย์ ยอดฮิต เรทติ้งสูงๆ ของเกาหลีมี เรื่องอะไรบ้าง
1. Boys Over Flowers รักฉบับใหม่หัวใจ 4 ดวง
2. Boys Over Flowers After Story Special ภาคพิเศษหลังจากผ่านไป 5 ปี
3. Lie To Me
4. My Princess
5. Billie Jean Look At Me ยัยวุ่นวายกับคุณชายซูเปอร์สตาร์

จริงๆมีเยอะกว่านี้แต่ ผู้เขียนไม่ได้นำมาแสดงทั้งหมด สำหรับท่านที่ต้องการ ข้อมูลที่มากกว่านี้
สามารถดูได้ที่
หนังซีรี่ย์ เกาหลี ยอดฮิต 50 อันดับ
ขอขอบคุณ ข้อมูลจากเว็บ Lovelydvd